241 จะได้เล่าไป ด้วยความสุขสันติ์ เดินทางมุ่งมั่น ของ”จ๋ามเทวี”
เริ่มต้นล่องแก่ง ของ”แม่ปิง”นี้ “บ้านหน้าแก่ง”มี ท่าเรืออยู่หั้น
ล่องไปเรื่อย เรื่อย ก็มาปะกั๋น วังน้ำลึกนั้น ชื่อ”ถ้ำวังตอน”
242 ถ้านี้มีผี ที่คอยหลอกหลอน จะต้องไหว้วอน เซ่นผีหื้อดี
สมัยก่อนนั้น กอนผ่านวังนี้ จะหันหมู่ผี พายเรือเข้าหา
มันจะเอิ้นสั่ง โดยเอ่ยวาจ๋า ไป”กรุงเทพฯ”กา ซื้อผ้ามาตวย
243 เอามาฝากข้า แพรไหมงามสวย ปิ่นปักผมมวย ด๊อกหูสองข้าง
กอนเอามาฝาก ข้าก็บ่ขาง อำนวยเส้นทาง ไปรอดปลอดภัย
กอนบ่ซื้อมา หื้อข้าดังใจ๋ ก็จักมีภัย เกิดกับสูหั้น
244. เป๋นเรื่องประหลาด ที่เล่ามานั้น ปรากฎหื้อหัน ในความเป๋นไป
กอนบ่าเยียะต๋าม ที่มันสั่งไว้ เรือล่มทันใด เมื่อมาถึงหั้น
กอนซื้อมาฝาก ต๋ามที่อู้กั๋น เรือผ่านพ้นพลัน โดยรอดปลอดภัย
245. มันเป๋นอย่างอี้ เมินนานมากหลาย จ๋นหมู่เรือพาย กลั๋วกั๋นตั๊ดนี่
ต้องมีสัจจะ ตกลงกับผี ของฝากต้องมี จึงพ้นเภทภัย
เรื่องความร้ายกาจ หู้กั๋นแพร่หลาย ในความเป๋นไป ผีวังตอนนี่
246. อยู่มาวันหนึ่ง มีนักปราบผี คาถา มนต์ดี ล่องเรือผ่านมา
มีคนพายเรือ มุ่งตรงเข้าหา เอิ้นถามไปว่า ไปตางใดมี
กอนไป”กรุงเทพฯ” ของฝากดีหลี ซื้อฝากข้านี้ กำปิ๊กมาอั้น
247. เสื้อผ้าก็ได้ ผ้าไหมแพรนั้น ข้าอยากได้มัน ของฝากสิ่งดี
ตั๋วเขารับปาก หื้อรอตั๊ดนี่ แพรไหมหลากสี ข้าจะเอามา
ครั้นถึงวันปิ๊ก ผีออกมาหา เอิ้นถามไปว่า มีไหนของดี
248. อาจารย์ไค่หัว ได้บอกกับผี ต้องขอโทษที ข้าลืมซื้อมา
กอนอยากใคร่ได้ ตวยไปกับข้า บ่าดีโขดนา ตั๋วข้าขอที
ผีบ่าปอใจ๋ เมื่อมาไม้นี้ จะต้องหันดี ทันทีทันควัน
249. คว่ำเรือของมัน เยียะน้ำปั่นป่วน คนเรือเรรวน ตกใจ๋เกิดพลัน
กลายเป๋น”เงือกใหญ่” หนุนพื้นเรือนั้น จะคว่ำเรือมัน เอาจ๋นอัปปาง
คนเรือตกใจ๋ น้ำลายปอจ๋าง ทุกคนลนลาน กลั๋วสิ้นชีวี
250. อาจารย์เอิ้นสั่ง อดเอาน่อยซิ บ่ต้องกลั๋วผี ข้าสู้มันได้
ช่วยกั๋นคัดเรือ ประคองเอาไว้ ปล่อยมันเยียะไป จ๋นสุดฤทธิ์มัน
พอได้จังหวะ ตั๊ดน้ำกว้างนั้น เสกคาถาพลัน เป๋น”ควายธนู”

251. อำนาจเวทมนต์ เกิดก๋ารต่อสู้ ตั๋ว”ควายธนู” ขวิดใส่”เงือก”มัน
สู้กั๋นดุเดือด เลือดสาดที่นั้น เจิ่งนองแดงกั๋น อยู่ในน้ำนี่
น้ำขุ่นสีแดง ข้นคลักเหลือที่ ตั๊ดนี่ชื่อมี “วังแดง”ฮ้องอั้น
252. จ๋นในที่สุด ผีก็เสร็จกั๋น กลายเป๋นตำนาน เล่ากั๋นม่วนดี
บ่มีอีกแล้ว เรื่องราวของผี ล่องเรือไปดี นับแต่นั้นมา
ไปถึงตั๊ดที่ มีชื่อเรียกว่า “บ้านแม่ม่าย”ป่า เรื่องราวเปิ้นมี
253. เป๋น”บ้านหล่มหน้อย” หล่มลงตั๊ดนี่ สูญหายไป่มี เพราะ”จิ้นปล๋า”มัน
ได้”ปล๋ากังเผือก” เอามาแก๋งกั๋น กิ๋น”จิ้น”ของมัน หล่มหายไปเสี้ยง
เหลือแต่แม่ม่าย บ่ได้กิ๋นเลี้ยง จึงบ่ต้องเสี่ยง สูญไปกับเขา
254. เหลือบ้านหลังเดียว ของตั๋วแม่เจ้า เขาจึงฮ้องเอา ว่า”เนินแม่ม่าย”
นางรวบรวมของ แล้วนำไปขาย สร้างวัดถวาย ชื่อว่า”วัดด้ง”
บ่มีเหลือแล้ว ผุพังเป๋นผง เห็นเพียงตั๋วโครง เป๋นวงอยู่หั้น
255. ไปถึง”หล่มหลวง” ถัดไปใกล้กั๋น เลียบหาดทรายนั้น ถึง”เกาะผีบ้า”
มีเรื่องเล่าไว้ “กะเหรี่ยง”จาวป่า เกิดคลั่งขึ้นมา เปิ้นว่าบ้าขึ้น
เดือดร้อนจาวบ้าน ไล่จับขัดขืน วิ่งหนีหน้าตื่น ซ่อนบนเกาะหั้น
256. บ่มีหยังกิ๋น อดข้าวบนนั้น ที่สุดตั๋วมัน ล้มหายต๋ายไป
จาวบ้านจึงฮ้อง ชื่อเกาะนั้นไว้ “เกาะผีบ้าไป” เป๋นชื่อตวยมา
ล่องแพไปถึง ช่องเขาหน้าผา สูงใหญ่เสียดฟ้า ตั้งคาอยู่หั้น
257. น้ำไหลเชี่ยวแรง ลมแฮงปอกั๋น เรื่องของตำนาน เล่าขานกั๋นมี
ชื่อ”ผาวิ่งชู้” อยู่เป๋นสักขี พยานเรื่องนี้ กับความฮักมัน
ในความผิดหวัง มีเรื่องเศร้ากั๋น สุดท้ายของมัน ความต๋ายมาเยือน
258. เปิ้นเล่ากั๋นไว้ หลักฐานติดเตื๋อน บ่หื้อลืมเลือน หู้กั๋นไว้หั้น
เมินนานมาแล้ว ณ “เมืองลี้”นั้น เจ้าเมืองมีกั๋น ปกครองสืบมา
มีธิดาหน้อย ฮักดังแก้วต๋า แม่นงพงา ชื่อว่า”ดอกเอื้อง”
259 ชายหนุ่มคนหนึ่ง รูปงามเอาเรื่อง เป๋นเพียงจาวเมือง ทุกข์ยา กนาถา
เกิดฮักผูกพัน แม่เอื้องดอกฟ้า เจ้าครองพารา แค้นเหลือทนได้
หาเรื่องกีดกั๋น บ่หื้อเข้าใกล้ ความบ่พอใจ๋ ได้เกิดขึ้นมา
260. อันเรื่องความรัก เป๋นวาสนา กอนเกิดขึ้นมา ห้ามกั๋นบ่ได้
ทั้งคู่ฮักกั๋น ด้วยความเต็มใจ๋ พ่อขัดขวางไว้ กักขังลูกยา
บ่หื้อพบกั๋น หนุ่มเฝ้าคอยหา กึ้ดเติงดอกฟ้า เห็นหน้าหื้อได้

261. ได้พบน้องแก้ว สุดขั้วหัวใจ๋ จึงเอ่ยความนัย บอกหื้อกานดา
กอนอยู่อย่างอี้ ความปรารถนา พังภินท์สัญญา เป๋นไปบ่ได้
เฮาพากั๋นหนี ไปจากท่านไท้ ตางหน้าเป๋นไป อย่างใดช่างมัน
262. “ เอื้องฟ้า”ตกลง หนีตวย”ชู้”นั้น ขี่ม้าไปกั๋น หนีราชภัย
นั่งม้าตั๋วแม่ ลูกติดตวยไว้ วิ่งม้าออกไป ตางนอกเมืองหั้น
ตางฝ่ายเจ้าพ่อ หู้ความเช่นนั้น พร้อมหน่วยทหาร ไล่ล่าตวยไป
263. มาถึงผาสูง ไปต่อ บ่ได้ เลยตัดสินใจ๋ โดดจากผาหั้น
ลอยลิ่วละล่อง ก๋อง บนน้ำนั้น ตึงคนม้ากั๋น จ๋มน้ำทันที
ลูกม้าตั๋วหน้อย ฮักแม่สุดที่ โดดตวย นที หาแม่โดยพลัน
264. ทั้งหมดตกใส่ ใต้ลุ่มผานั้น เขาจึงฮ้องกั๋น ว่า”ผาวิ่งชู้”
ศพม้าตั๋วหน้อย กล๋ายเป๋นเกาะอยู่ ชื่อฮ้องน่าดู “แก่งอกม้าหน้อย”
ศพม้าตั๋วแม่ อยู่ไกล๋ ไปน่อย เป๋นหินผาดอย ว่า”แก่งอกม้า”
265. เกาะแก่งสำคัญ น้ำไหลซัดซ่า ซัดแฮงแต๊นา เป๋นอันตราย
ผ่านไปเรื่อย เรื่อย หินหลวงผาหลาย พ่องเป๋นหาดทราย น่านอนอยู่หั้น
ถึง”ถ้ำผาหีบ” เป๋น”หีบ”เรียงกั๋น มี”ตู้พระธรรม” เก็บซ่อนในนี่
266. เป๋นหีบบ่ะเก่า เก็บซ่อนหลีกลี้ ต๋อนเมื่อภัยมี “พม่า”ยึดครอง
ล่องไปแห๋มน่อย เหมือนไปบ่าถอง มีหยังขวางคลอง “ดอยเกิ้ง”อยู่หั้น
ตำนานเปิ้นว่า “จ๋ามเทวี”นั้น ศรัทธาของท่าน แป๋งวัดบนดอ
267. เมินนานชำรุด ทรุดโทรมร่วงผลอย “ครูบา”เปิ้นกอย แป๋งใหม่ขึ้นมา
แฮงของจาวบ้าน “กะเหรี่ยง”จาวป่า เปิ้นมีศรัทธา ช่วยแป๋งกั๋นได้
แป๋งวัดเสร็จแล้ว จัดฉลองใหญ่ เป๋นศูนย์รวมใจ๋ ของคนที่หั้น
268. “ครูบา”ได้พระ เก่าแก่ที่นั้น “กะเหรี่ยง”ขุดกั๋น ถวาย”ครูบา”
จับดี”สมเด็จ ดำรงฯ”แอ่วหา ไหว้สา”ครูบา” ที่”เมืองฮอด”หั้น
“ครูบา”ถวาย พระหื้อ”องค์ท่าน” เอาพระป๋นกั๋น ตั้งไว้สามองค์
269. ลองผ่อกำกึ้ด ว่าเปิ้นจะปล๋ง เลือกในสามองค์ จะเอาองค์ใด
“ สมเด็จ”เปิ้นผ่อ “องค์ท่าน”กึ้ดใจ๋ สององค์”เจียงใหม่ “ ศิลป์”เจียงแสนอั้น”
เลือกเอาองค์สาม ดูแปลกจากกั๋น โบราณองค์นั้น ศิลปะงามเหลือ
270. เป๋นที่เปิงใจ๋ “ ครูบา”เมืองเหนือ เปิ้นหู้ไว้เผื่อ เลือกเอาองค์หั้น
ถึง”บ้านท่าครั่ง” “ครั่ง”นักหลายกั๋น ปล่อย”ครั่ง”กับมัน ไม้”จามจุรี”
“บ้านหนองบัวคำ” แป๋งฝายไว้นี่ กังหันน้ำมี หมุนน้ำขึ้นใช้

271. เสียงดังเอี้ยดอ้าด ฟังแล้วม่วนใจ๋ ภูมิปัญญาไทย บ้านป่าเฮามี
ผ่านกั๋นไปแล้ว ม่วนอกสุขขี ธรรมชาติเปิ้นมี เสน่ห์มนตรา
ซ้ายมือ”บ้านชั่ง” คอยชั่งไผหวา ขวามือนั้นนา “ ตี๋นดอยเกิ้ง”มัน
272. เปิ้นว่ากั๋นไว้ “จ๋ามเทวีท่าน” ยิงธนูเสี่ยงกั๋น “ดอยนี่เกิ้งไว้”
ลองยิงหลายดอก บ่ผดแผวไหน จึงสร้างวัดไว้ บน”ดอยเกิ้ง”หั้น
พ้น”ดอยเกิ้ง”แล้ว เริ่มเข้าแก่งกั๋น บางคนว่ามัน “เกิ้งแก่ง” ไว้นี่
273. ตางเหนือต้นน้ำ เกาะแก่งบ่มี๋ “เกิ้ง”ไว้สุดที่ ตางใต้มีมา
มันเป๋นเรื่องแปลก มีเรื่องดังว่า ขีดขั้นนั้นนา ของน้ำก็มี
“แก่งป้อก” แก่งแรก น้ำไหลเร็วรี่ โขดหินผามี อยู่ตึงสองข้าง
274. มันแบ่งน้ำแยก แตกเป๋นขาหย่าง กอนแพอยู่กล๋าง ล่องไปสบาย
อันคำว่า”ป้อก” นั้นมีความหมาย “ลัวะ”ถูกทำลาย หื้อปิ๊กบ้านอี้
พ้นจากแก่งป้อก” ถึง”ผาเต๋า”นี้ รูปร่างหินมี เหมือนเต๋าไฟอั้น
275. ผ่อของประหลาด ใกล้”ผาเต๋า”นั้น ตั๋วหน้าผามัน เป๋นสีแดงแดง
บางแห่งสีมืด ดำไหม้หลายแห่ง เหมือนเต๋าไฟแฮง ตั้งขวางอยู่หั้น
เขาฮ้องกั๋นว่า “ผาเต๋าใหญ่”นั้น มีเรื่องเล่ากั๋น ทำนองนิยาย
276. เป๋นที่เยียะกิ๋น ของลัวะมากหลาย โดนถูกทำลาย เหลือเต๋าไว้นี่
หน้าผาอีกแห่ง เหนือแอ่งน้ำนี่ ชื่อฮ้องมันมี ว่า”ผาเต๋าหน้อย”
ล่องไปตวยแก่ง น้ำเย็นฟองฝอย เป๋นแก่งหน้อยหน้อย บ่าเชี่ยวตะใด
277. เขาฮ้องกั๋นว่า ลำน้ำ”แก่งใหม่” แก่งที่เลยไป “แก่งอกม้าหน้อย”
ได้เล่าไปแล้ว จึงบ่ต้องฝอย บ่ไปย้อนรอย เล่าไปตางหน้า
แก่งใหญ่แห๋มแก่ง ขวางลำตางหน้า ชื่อ”แก่ง อกม้า” ตั๋วม้าแม่มัน
278. หมู่เกาะแก่งนี้ มีเรื่องเล่าขาน เป๋นดั่ง”ตำนาน” หื้อหู้กั๋นไป
มาถึง”ผาพัง” บนดอยบ่ไกล๋ เป๋นถ้ำรูใหญ่ ตำราซ่อนหั้น
ใส่ตู้ธรรมไว้ ซ่อนในถ้ำนั้น เหลือสิ่งผุพัง ของดีหาย
279. เสียดายแต๊เนอ มันน่าสนใจ๋ บันทึกความนัย อยู่ในธรรมหั้น
เอาไปเหียหมด พ่องเอาธรรมนั้น เพียงเพื่อหวังกั๋น ขี้เถ้านั้นไป
ผสมแป๋งพระ เชื่อมั่นคุณไสย ที่มีอยู่ใน ใบลานจ๋ารหั้น
280. บ่มีเหลือแล้ว บ่มีหื้อหัน บันทึกสำคัญ สูญหายไปเสี้ยง
ถึง”หาดอุมเหลาะ” น้ำเซาะหาดเกลี้ยง ทรายขาวนวลเนียน หยุดพักผ่อนไป
ครั้นถึงยามเช้า อดหนาวบ่ได้ เคลื่อนแพต่อไป ถึง”ผาฆ้อง”หั้น

281. “นมผา”เป๋นแผ่น ย้อยลงมานั้น ตี๋เคาะเสียงมัน กังวานก้องไพร
เสียงดัง”มง”มง” ได้ยินไปไกล๋ “ หมู่ลัวะ”ละไว้ “ฆ้อง”กล๋อง”ลัวะมัน
ถึง”ห้วยอุมแป ” เป๋นเขตแดนกั้น “ลี้” “ หละปูน”กั๋น “ฮอด” “เจียงใหม่”เฮา
282. ลำ”ห้วยปุ๋มหมู” เป๋นเรื่องบ่ะเก่า “แม่ครัวลัวะ”เอา “จิ้น”ขว้างลงหั้น
มีตึง”ปุ๋มหมู” “ เครื่องในหมู”นั้น “ สามชั้น”หมูมัน เรี่ยตวยน้ำไป
ขว้างตึง”ปูรี” ที่มวนยาไว้ ตั้ดหน้าผาใหญ่ เป๋นฮอย”ปูรี”
283. มี”ผางวงช้าง” ดูเหมือน”ช้างที่” ยื่นงวงยาวดี กิ๋นน้ำอยู่หั้น
ผ่อกั๋นแห๋มกำ เหมือนกับ”ขัว”นั้น ทอดยาวต่อกั๋น หื้อคนข้ามไป
เป๋นดีเสียดาย “ สะเปา”แดนไกล๋ ชนหักตกไป ในลำน้ำนี่
284. กล๋ายเป๋น”ขัวหัก” ผ่อเห็นถ้วนถี่ กล๋างลำน้ำนี้ เดินข้ามบ่ได้
ออกจาก”ผาขัว” ปะ”ผาสุ่มไก่” “ผาแจ้ก”อยู่ใกล้ “ผาย่าลัวะ”หั้น
หินผางดงาม ต๋ามรูปนามนั้น หื้อกึ้ด หื้อฝัน หื้อเฮาผ่อไป
285. จาก”ผาย่าลัวะ” บ่ใกล้บ่ไกล๋ “ผากุลาไง” อยู่ถัดจากนี่
“พระบาทฮ่อมคำ” ซ่อน”คำ”ไว้นี่ สุดท้ายมือดี ฉกเอาไปได้
เป๋นเหมือนนิทาน เล่าขานกั๋นไว้ หื้อจดจ๋ำไป อิงหลักฐานมี
286. จะเล่าหื้อฟัง เรื่องเศร้าโศกศรี “ พระยาลัวะ”มี ประสบพบมา
แต่ก่อนตั้ดนี่ เป๋น”เมืองลัวะป่า” ปกครองกั๋นมา เนิ่นนานพอดู
มีธิดาหน้อย งามเป๋นที่หู้ ความงามโฉมตรู เล่าลือกั๋นไป
287. เจ้าชายองค์หนึ่ง เกิดความสนใจ๋ จึงปลอมแปลงกาย ลักมาผ่อนาง
ได้เห็นนางแล้ว ติดใจ๋บ่จ๋าง อยากได้โฉมงาม ไปเป๋นชายา
ส่งฑูตไปขอ ลัวะพ่อบ่ว่า เปิ้นมีเมตต๋า ต้อนรับฝ่ายชาย
288. ตั๊ดกล๋างพรรษา เวลานัดหมาย “สะเปา”เรือใหญ่ พากั๋นขึ้นมา
ขบวนขันหมาก สินสอดจัดหา อาหารเตรียมมา ทั้งคาวหวานมัน
พร้อมกับ”เงินคำ” “ ค่าแสน”มีกั๋น “ฆ้อง” กล๋อง”ผ้าม่าน” “ ผ้าไหม”นำมา
289. ทุกคนปลึ้มใจ๋ เป๋นสุขแต๊ว่า หมู่ชาวประชา ตื่นเต้นยินดี
สองฟากฝั่งน้ำ ผู้คนอึงมี่ ชื่นชมสุขศรี โห่ร้องอวยชัย
เต๋มบนสะพาน ที่โค้งงามใส สะท้อนเงาใน พื้นน้ำในนี่
290. ต้อนรับใหญ่โต เพื่อเป๋นสักขี พยานรักมี ต่อชายหญิงหั้น
ปะรำโรงใหญ่ ตั้งบนขัวนั้น “ พระยาลัวะ”ท่าน เป๋นเจ้าพิธี
แวดล้อมคนหลาย “องค์มเหษี” “ธิดาแสนดี” อยู่บนขัวหั้น

291. แขกเหรื่อบนเรือ “สะเปาใหญ่”นั้น โบกมือรับกั๋น ยินดีปรีดา
ก่อนจะถึงขัว มุ่งเรือเข้าหา จะเข้าจอดท่า ตั๊ดที่ริมฝั่ง
เกิดชะล่าใจ๋ บ่ทันระวัง น้ำเชี่ยวไหลทั่ง กล๋างลำ”สะเปา”
292. หัวเรือเสียหลัก ปะทะตั๋วเสา ขัวถูก”สะเปา” หักล่มลงมา
ตั๋ว”พระยาลัวะ” ตกจากหน้าผา พร้อมหมู่เสนา ตึงลูกตึงเมีย
“องค์มเหษี” ก๋ำ”แจ้ก”แน่นเหีย บ่ยอมหื้อเสีย “เงินแสน”ในหั้น
293. ข้างหนึ่ง”สุ่มไก่” ก๋ำเอาเคล็ดกั๋น จ๋มน้ำเร็วพลัน แก้นน้ำเต็มที
ตาง”พระยาลัวะ” เห็น”มเหษี” ตกน้ำมือมี “แจ้ก”ก๋ำไว้มั่น
จึงรีบว่ายน้ำ ตรงเข้าช่วยกั๋น ปล่อย”แจ้ก”เหียมัน บ่ดีเสียดาย
294. จ๋นในที่สุด “ นางลัวะ”รอดต๋าย ตะเกียกตะกาย ขึ้นบนผาหั้น
ขึ้นไปคนเดียว “ พระยาลัวะ”นั้น ถูกน้ำซัดปั่น หลุดล่องลอยไป
บาดเจ็บสาหัส น้ำพัดไปไกล๋ หน้าผาขวางไว้ ขึ้นพักเอาแฮง
295. ฝ่าย”นางลัวะ”นั้น เกิดความกิ๋นแหนง เสียดาย”เงินแพง “ อยู่ใน”แจ้ก”หั้น
สุดแสนเสียดาย เงินหายไปนั้น จ้องผ่อตวยมัน เป๋นดีเสียดาย
ตาง”เรือสะเปา “ เกิดความเสียหาย น้ำพุ่งเข้าใส่ เข้าในท้องเรือ
296. “เจ้าชาย”จึงสั่ง ขว้างบ่หื้อเหลือ เพื่อหื้อเบาเรือ บ่หื้ออัปปาง
“ม่าน”หีบ”หนังสือ” “สินสอด”หลายอย่าง ขว้างทิ้งลงน้ำ เหลือเพียง”หีบคำ”
สั่งบอกพี่เลี้ยง เจ้าอย่าถลำ เรือหน้อยลอยลำ เอา”หีบคำ”ไป
297. เก็บซ่อนไว้ก่อน จงรีบขะใจ๋ ซ่อนไว้ตั๊ดใด หื้อจ๋ำไว้มั่น
กอนพ้นภัยแล้ว ค่อยไปเอากั๋น ท่านจงเก็บมัน ซ่อนไว้หื้อดี
พี่เลี้ยงรับคำ ลงเรือเร็วรี่ “ฮ่อมตอย”ตั๊ดนี่ “หีบคำ”ซ่อนไว้
298. ต่อมาเปิ้นฮ้อง “ฮ่อมคำแสนใช้” เปิ้นแป๋งวัดใหญ่ อยู่บนดอยนี่
ฝ่าย”ลูกสาวลัวะ” ดิ้นรนเต๋มที่ ชีวิตยังมี ต้องสู้ต่อไป
“เจ้าชาย”ได้เห็น เป๋นห่วงสุดใจ๋ ละเรือทันใด ว่ายไปช่วยทัน
299. พานางเข้าฝั่ง “ เจ้านาง”น้องนั้น บอบช้ำร่างกั๋น สลบเกิดมี
“ เจ้าชาย”อุ้มแบก พาตั๋วนางนี้ มุ่งตรงไปที นครของนาง
แบกนางขึ้นบ่า ฮักบ่จืดจ๋าง ฮ้อง”ดอยป้วดนาง” “คำลัวะ”ว่าอี้
300. เป๋นเพราะ”เจ้าชาย” “แบกนางลัวะ”นี้ ข้ามดอยที่มี ได้ชื่อว่าอั้น
ภายใน”สะเปา” เหล่าพลเรือนั้น หนีต๋ายเร็วพลัน ออกจากเรือไป
เรือชนหินผา ถึงแตกสลาย ติดตั๊ดผาใหญ่ “ผาสะเปาหั้น”

301. เรือชนฃัวหัก ตกในน้านั้น จึงได้ฮ้องกั๋น ว่า”ผาขัว”อี้
ฝ่าย”พระยาลัวะ” ได้เห็นเช่นนี้ เหตุการณ์เกิดมี กับหมู่ลูกยา
เห็นลูกปลอดภัย แบกไปตางหน้า ค่อยยิ้มออกมา ด้วยความยินดี
302. กรำแดดกรำน้ำ อิดหิวสุดที่ หมดแฮงอ่อนมี ล้มฟาดลงหั้น
หัวฟาดกับแง่ หินใหญ่ตรงนั้น ยกหน้าเงยพลัน ยิ้มอยู่ในที
จ้องมองผ่อไป ที่ซ่อน”คำ”นี้ ยิ้มนั้นจึงมี เลศนัยแฝงหั้น
303. ผ่อเผิน เมินนาน บนหินผานั้น เหมือนกับ”ฝรั่ง” จ้องผ่อหยังอี้
เห็นหนวดเห็นเครา ต๋าจ้องไปที่ “ ฮ่อมคำแสน”มี ของดีซ่อนหั้น
ข้างฝ่าย”นางลัวะ” อยู่บนดอยนั้น จ้องผ่อ”แจ้ก”มัน ลอยตวยน้ำไป
304. ผ่อไปผ่อมา บ่ใกล้ บ่ไกล๋ มันลอยเข้าไป ตั๊ดหินผาหั้น
ถัดไปแห๋มน่อย เห็น”สุ่มไก่นั้น บ่าหินขวางกั้น ผ่อไปใจ๋ดี
“เงิน “คำ”บ่หาย ทุกข์ใจ๋หลีกหลี้ ต่อไปคงมี ไผช่วยขึ้นมา
305. เหลียวไปผ่อ”ผัว” “เจ้าพี่ลัวะ”ข้า เห็น”ตั๋วพระยา “ โค่นล้มทันที
นอนลุกบ่ะขึ้น ต๋าจ้องไปที่ หว่างดอยที่มี “ คำแสน”ซ่อนหั้น
เปิ้นต๋ายไปแล้ว บ่ได้เห็นกั๋น เกิดความโศกศัลย์ อาลัยผัวข้า
306. น้าต๋าไหลนอง เต๋มบนใบหน้า เคยอยู่กั๋นมา ด้วยความสุขขี
อันความโศกเศร้า เสียใจ๋ครั้งนี้ ความสุขเคยมี สูญหายไปเสี้ยง
“ นาง”ลุกขึ้นยืน ใจ๋แตกเป๋นเสี่ยง ขอหื้อได้เพียง เห็น”ผัว”ของนาง
307. หันไปมองดู “แจ้ก”อยู่เบื้องล่าง ก้นมันขึ้นขวาง ค้างอยู่หินหั้น
ทันใดจิตดับ ยืนอิงผานั้น ต๋าจ้องผ่อมัน “ แจ้กใส่คำ”มี
เกิด”ผาสุ่มไก่” “ผาแจ้ก”แห๋มที่ “ผาขัว”เกิดมี “ผาสะเปา”หั้น
308. “หินผาย่าลัวะ” อยู่ตางหน้านั้น ธรรมชาติงดงาม หินย้อยหลากสี
ถัดจากนี่ไป “ เจ้าลัวะ”คนดี จ้องผ่อตั๊ดที่ “พระบาทฮ่อมคำ”
เลย”ฮ่อมคำแสน” “ขันหมาก”กล๋างน้ำ “ปุ๋มหมู”ลอยข้าม ใกล้”ผาหมูมัน”
309. เป๋นบ่ะหินผา อยู่มาตวยกั๋น อนุสรณ์มัน หื้อคนหู้ไว้
เหตุเกิดครั้งนี้ “ จาวลัวะ”เสียใจ๋ ทุกคนร่ำไห้ สุดแสนเสียดาย
รอถ้าบนแก่ง บ่าทันยักย้าย พอหู้ข่าวร้าย ปิ๊กบ้านทันที
310. เหลือไว้เกาะแก่ง มีอยู่ตั้ดนี่ “แก่งป้อก”ชื่อมี “ ลัวะ”ปิ้กบ้านมัน
ของที่จัดเตรียม งานพิธีนั้น ก๋ำขว้างลงหั้น บ่ได้เสียดาย
”เต๋าไฟแก่นหน้อย” กับ”เต๋าไฟใหญ่” ข้าวของทิ้งไป บ่ ได้ใยดี

311. เป๋นเรื่องเล่าขาน นำมากล่าวชี้ เรื่องเล่าถ้วนถี่มี หู้ เรื่องเอาไว้
มี”ผาม่านหน้อย” กับ”ผาม่านใหญ่” “ผาฆ้อง”ดังไกล๋ “ผาหนังสือ”หั้น
“หยวกกล้วย”ไว้แก๋ง ลอยน้ำไปนั้น ไปอยู่ก่ายกั๋น “บ้านหาดหยวก”มี
312 สัตว์สิ่งหลายอย่าง “เต่า”กับ”ควาย”นี้ “อีวอก”ก็มี น้ำพัดมาหั้น
กล๋ายเป๋น”ผาเต่า” “ผาควาย”เฝ้ากั๋น “อีวอก”โดดทัน ขึ้นอยู่พงไพร
หากิ๋นในป่า แพร่พันธุ์ขยาย อีวอกมากหลาย ในป่าตั้ดนี่
313.. น้ำซัดเต๋มแฮง “สะเปา”เร็วรี่ ชนดอยทันที “ ดอยโหยด”ลงไป
กล๋ายเป๋น”ดอยโหยด” “สะเปา”ลอยไกล๋ ติดหน้าผาใหญ่ เป๋น”ผาสะเปา”
ข้าวของที่เหลือ ติดค้างริมเขา จาวหมู่บ้านเฮา ฮ้องว่า”เกาะค้าง”
314. “ ซ้าแจ้กใส่เกลื๋อ” “ เกลื๋อแตก”เรี่ยตาง สีขาวเหมือนอย่าง เม็ดเกลื๋อเฮามี
ฮ้องกั๋น”หาดเกลื๋อ” เหลือเพียงชื่อนี้ กล๋างลำน้ำมี “ผาสุ่มไก่หั้น”
หมู่บ้าน” ปั้ดต๋า” อยู่ตางหน้านั้น “วัดวอก”มีกั๋น จาวบ้านศรัทธา
315. ในถ้ำกว้างใหญ่ มีของล้ำค่า วิหารศาลา เป๋นไม้งามดี
เป๋น”วิหารหน้อย” งามเหมาะล้ำที่ มีคนมือดี ลักขนเอาไป
ลาจากหมู่บ้าน ออกไปบ่ไกล๋ ปะแก่งน้ำใส ชื่อ”แก่งปั้ดต๋า”
316. มันเป๋นแก่งกว้าง น้ำหลิ่งตางหน้า เสียงน้ำซัดซ่า ใส่หินเสียงดัง
ป่าไผ่สองข้าง ผ่อบ่าเห็นฝั่ง เหลี่ยมดอยบดบัง เลี้ยวโค้งไปได้
หัน”ดอยสามดอย “ ตึงสูงตึงใหญ่ ตั้ดกล๋างพงไพร เย็นใจ๋เหมาะดี
317. จาก”หาดเดื่อ”ไป ถึง”ผาผึ้ง”ที่ สูงใหญ่เคยมี ผึ้งป่าอยู่หั้น
ตั๊ดนี่มันเย็น ผึ้งมาอยู่กั๋น แหล่งน้ำดีล้ำ ต๋อนยามหน้าแล้ง
มาถึง”ผาตั้ง” ตั้งสูงบังแสง สายน้ำพัดแฮง “วังกวาวหน้อย”นี่
318. ถึง”หาดอุมป้าด” น้ำห้วยไหลรี่ หมู่บ้านนั้นมี ห้าหกหลังคา
ตั้ดที่”นางจ๋าม” พาเรือเทียบท่า “ ลัวะ”พากั๋นมา แห่”ฆ้อง”กล๋อง”นี่
“แนหน้อย”พิณพาทย์” บรรเลงเต๋มที่ ต้อนรับเทวี ที่เปิ้นได้มา
319. กำว่า”อุมป้าด” มีความหมายว่า “แห่พิณพาทย์”มา เปิ้นว่าอย่างอี้
“น้ำปิง” “น้ำป้าด” มาปะกั๋นนี่ น้ำเพิ่มมากมี ลง”แม่ปิง”กั๋น
ลำน้ำสาขา อันมากหลายนั้น มา “สบ”รวมกั๋น น้ำจึงมากมี
320. ปะ”หาดขี้หนู” บ่าดูถ้วนถี่ ลุยไปเจอดี แร่หินแหลมคม
กรวดหินสีดำ เป๋นปุ่มเป๋นป๋ม ต๋ำตี๋นระบม กอนย่ำถูกมัน
ผ่อกอยดูไป เหมือน”ขี้หนู”นั้น ตะปุ่มตะป่ำ เต๋มหาดแต๊นา

321. ถึง”หาดโทกเทก” ฟังแปลกแต๊ว่า น้ำ ห้วยออกมา ลง”น้ำปิง”หั้น
“ผาแปลก”ผาปุ้” หินแร่ผานั้น “ปุ้”ออกเหมือนมัน เป๋นฟองออกมา
หยังมาประหลาด ธรรมชาติแปลกต๋า บ่เกยเห็นมา เหมือนกับที่นี่
322. แพล่องลดเลี้ยว คดเคี้ยวหลบลี้ ฟ้ามืดเต๋มที ถึง”บ้านสะเหลี่ยม”
แวะซื้อของกิ๋น เสบียงมันเขียม เงินทองแลกเปลี่ยน คนในหมู่บ้าน
ซื้อผักซื้อไม้ ไว้เป๋นอาหาร อยู่กิ๋นปอก๋าน ค่อยเดินทางไป
323. จาก”หาดคำแสน” ล่องมาบ่ไกล๋ “ป้วดนาง”ดอยใหญ่ ถึง”ผาม่านหน้อย”
เลย”ผาม่านใหญ่” ตะวันบ่ายคล้อย ลวดลาย ริ้วรอย งามเหมือนผ้าม่าน
ประวัติพระบาท “ฮ่อมคำแสน”ท่าน เป๋นเรื่องเล่าขาน ฟังกั๋นม่วนดี
324. “ผาตั้งหนังสือ” เรียงซ้อนอยู่นี่ ต๋ำราของดี “ เจ้าชาย”เอามา
ตั๊ด”บ้านหาดหยวก” เห็นแพล่วงหน้า “งัว” หมู” ไก่” ปล๋า” อาหารอย่างดี
เป๋นของจ๋ำเป๋น เสบียงกรังนี้ อิ่มท้องหื้อดี มีแฮงค่อยไป
325. พ้นจาก”หาดหยวก” ไปได้ บ่ไกล๋ “ดอยโหยด”หินใหญ่ เหลือครึ่งแตกอ้า
อัน”ผาสะเปา” เห็นอยู่ตางหน้า เหลืองงามฮ่ามต๋า เหมือน”เรือสำเภา”
ตางเหนือ”บ้านก้อ” โขดหินผาเขา อย่างกับเปิ้นเอา “ของใช้”ขว้างหั้น
326. มี”บ้านก้อเหนือ” “ก้อท่า”ติดกั๋น “ก้อจอก”ม่วนงัน “ก้อหนอง”ตั๊ดนี่
ก้อมีหลายที่ อยู่ใน”เมืองลี้” “ก้อท่ง”ก็มี ฮ้องตวยชื่อห้วย
ถึง”บ้านแก่งหิน” น้ำลึกผาสวย “ผาเต่า”อยู่ตวย “ผาปล๋าเต๊าะหั้น”
327. มีเรื่องเล่าขาน “อ้ายท้ายลึก”นั้น เป๋นจาวลัวะมัน อาชีพพรานเบ็ด
อ้ายนั่งจ่อมปล๋า อย่างมีทีเด็ด “ ปล๋าเต๊าะ”ติดเบ็ด สะวัดแฮงไป*1
ปล๋าเลยหลุดออก ติดหน้าผาไว้ กล๋ายเป๋นหินไป อยู่บนผาหั้น
328. เลย”ผาเต่าไป” เข้า”แก้งก้อ”นั้น แก่งใหญ่เอาก๋าร สองชั้นแก่งนี้
ค่อยถ่อแพไป ระวังเต๋มที่ น้ำเชี่ยวแฮงมี โขดหินขวางกั้น
คัดท้ายหื้อดี กลั๋วชนหินนั้น ชนเข้ากล๋างลำ แพล่มจ๋มได้
329. พ้น”แก่งก้อ”แล้ว พอจะเย็นใจ๋ เห็นดอยลูกใหญ่ ขวางอยู่ตางหน้า
ผ่อเหมือนตั๋วควาย แมนหัวออกมา อย่างกับควายป่า ฮ้องว่า”ผาควาย”
เข้าสู่”แก่งขอน” อย่างขอนไม้ไหล ตางกว้างสบาย ไปได้เร็วดี
330. หินผาหลายก้อน เริ่มจากตั๊ดนี่ ประวัติมันมี “ข้าวปั้นปู่อ้าย”
เหมือนก้อนข้าวนึ่ง ปั้นแล้วเรียงไว้ กิ๋นบ่ะเสี้ยงไป ล่ะขว้างไว้หั้น
เรื่องเล่ามันยาว กอนใคร่ฟังกั๋น เป๋นเหมือนนิทาน “ปู่อ้ายท้ายลึก”

331. อ้ายเป๋นจาวป่า สูงใหญ่ล่ำบึ้ก อยู่ดงป่าลึก หากิ๋นต๋ามหั้น
เมียแต๊บ่มี๋ ม่อกเปิง2 ใจ๋กั๋น ชื่อคนฮักมัน “แม่แก้ว”คนงาม
เสาะว่าหากิ๋น จ่อมเบ็ดไปต๋าม แม่น้ำลำธาร ล่าสัตว์ตวยไป
332. อยู่มาวันหนึ่ง ได้ยินเสียงไก่ ขันในดงไม้ มีใจ๋ยับมัน
เอาไก่เข้าต่อ ใส่ในสุ่มนั้น ไก่ป่าหู้ทัน บ่เข้ามาใกล้
อ้ายลักผกผ่อ 3 ซ่อนเงียบเข้าไว้ ไก่ต่อเสียงใส ไก่ป่าบินมา

1.สะวัดแฮงไป หมายความว่าตวัดแรงไป
2.ม่อกเปิงใจ๋กั๋น หมายความว่า แค่พึงพอใจ,แค่ชอบพอกัน
3.อ้ายลักผกผ่อ หมายความว่า แอบดู แอบมอง

333. เห็นสุ่มใหญ่ล้ำ ขวัญไก่ผวา บ่ไหวแล้วข้า กลั๋วกลอุบาย
จึงหยุดอยู่หั้น คุ้ยเขี่ยขุยไผ่ บ่ยอม เข้าใกล้ หาไก่ต่อมัน
ตั๊ดนี่ถูกฮ้อง “ผาสุ่มไก่”กั๋น ที่อยู่ใกล้หั้น เป๋น”ดอยไก่เขี่ย”
334. บ่ได้ไก่ป่า ใจ๋อ้ายบ่เสีย อ้ายจึงไปเปี๋ย4 “มุย” “เบ็ด”ออกมา
ท่องไปต๋ามแก่ง วังลึกหน้าผา “จ่อมเบ็ดเอาปล๋า” “ วังน้ำสบก้อ”
ได้ปล๋ามาหลาย ม่วนใจ๋แต๊หนอ ตั๋วกูจะรอ เอาปล๋าตั๋วใหญ่
335. “ปล๋าค้าว”กิ๋นเบ็ด เสร็จกูแล้วไซร้ ได้ปล๋าตั๋วใหญ่ ไปหื้อน้องนาง
“สะวัดแฮงไป” หลุดเบ็ดไปค้าง ติดอยู่หว่างกล๋าง หน้า”ผาก้อ”หั้น
เมา กับปล๋าใหญ่ บ่ได้กิ๋นกั๋น ขึ้นไปเอามัน แกะออกบ่ได้
336. ละไว้หั้นเหีย บ่ต้องใจ๋ใส่ ลงมาเร็วไว ก๋องปล๋าลุ่มหั้น
ปล๋าที่จ่อมได้ ส่งกลิ่นคาวกั่น แมวลายเสือก่าน ย่องมาเข้าใกล้
กิ๋นไปหลายตั๋ว ปู่อ้ายหันใส่ ปักคันเบ็ดไว้ มุยฟันสุดแฮง
337. ฟันถูกตั๋วแมว หนีออกจากแหล่ง ขึ้นไปหมดแฮง บนผาหินหั้น
อดเจ็บบ่ได้ ดิ้นต๋ายบนนั้น “ผาแมว”ชื่อมัน ฮ้องกั๋นว่าอี้
นั่งพักหายอิด “อู้ด”อิ้ด”ใกล้นี่ เข้ามาพอดี เห็นตั๋วของมัน
338. หมูป่าสองตั๋ว ออกหากิ๋นกั๋น จึงเร่งเร็วพลัน ตวยล่าทันที
มุยฟันถูกคอ ปุดอยู่ กับที่ แห๋มตั๋วพอดี เอามุยขว้างไป
ถูกมุยหลังหัก นอนดักบ่ไหว เป๋นหมูนอนต๋าย ก๋องอยู่ตั๊ดหั้น
339. ฆ่าหมูได้แล้ว บ่ได้หวาดหวั่น ลงมือเร็วพลัน แล่จิ้นออกมา
คมมุยสับ สับ จิ้นหมูแต๊ว่า แบ่งจิ้นออกมา เป๋นอย่าง อย่างไป
ห่อไว้ขายพ่อง ส่วนหนึ่งกั๋นไว้ หื้อยอดดวงใจ๋ แม่แก้วคนงาม
340. หมู ปล๋าใส่ซ้า ขึ้นบ่าแบกหาม หาบคอนเดินทาง เข้าหมู่บ้านไป
ตึงขาย ตึงแจก จาวบ้านพอใจ๋ ชีวิตจาวไพร เป๋นไปอย่างอี้
อ้ายลืมคันเบ็ด บนดอยผานี้ ชื่อผาจึงมี “ผาคันเบ็ด”อั้น

341. กอนนั่งแพผ่าน ณ.ที่แห่งนั้น ก็จะเห็นมัน ว่าเป๋นอย่างใด
หินเนื้อละเอียด วาวมันขาวใส ขาวแดงป๋นไป เหมือน”จิ้นหมู”มัน”
ผานี้เปิ้นฮ้อง “ผาหัวหมู”กั๋น ถัดไป”ผามัน” “ผาคันเบ็ด”มี
342. “แก่งหาดขี้หนู” “แก่งสะเหลี่ยม”นี้ “แก่งปวง”ปล๋ามี น้ำลึกที่หั้น
“แก่งปวง”ยามแล้ง น้ำในแก่งนั้น บ่ลึกไปกั๋น ล่องแพสบาย
ถึงยามหน้าน้ำ น้ำปั่นแฮงหลาย ปั่นหูต๋าลาย ระวังหื้อดี
343. มาถึง”ผาแมว” ตั่วแมวป่านี้ ลายก่านสลับสี เหลืองดำมีหั้น
บน”หาดระงอง” โค้งทบศอกกั๋น เลี้ยวหายไปพลัน เป๋นถ้ำตางหน้า
ปากถ้ำโพรงใหญ่ คนแพเล่าว่า ตะก่อนเมินมา ของดีซ่อนไว้
344. วันดี คืนดี เสียงแห่มาไกล๋ เสียงดังฟังไป ลุกที่ใดมา
“เสียงฆ้อง”เสียงกล๋อง” มาจากถ้ำผา มีลำนำว่า ของดีมีนี่
คนบ่กล้าเอา เขาว่าของ”ผี “ ขางของที่มี เอาต๋ายแต๊นา
345. ตั๊ด”แก่งอุมก๋อง” แก่งนี่เข้าท่า น้ำไหลไปช้า ล่องไปกอยไป
ถึง”แก่งช้างฮ้อง” มันเป๋นแก่งใหญ่ ระวังระไว กับแก่งนี่นา
มันเป๋นผาใหญ่ ขวางตางข้างหน้า มันหลิ่งลงมา น้ำซัดไหลแรง
346. เสียงดังน่ากลั๋ว จ๋นขวัญแสยง จะต้องผ่อนแฮง ระวังหื้อดี
มา”แก่งวังวน” วนเวียนแก่งนี้ น้ำป่วนเต๋มที ดูดของลงไป
ต้องถอยออกห่าง ตางข้างฝั่งไว้ หาทางค่อยไป ผ่อหื้อดี ดี
347. ปะ”ผาม่านใหญ่” เป๋นผาหลากสี “ ขาว” เหลือง” แดง “มี แต่งแต้มบนหั้น
เวลาหน้าน้ำ “แก่งม่านหลวง”นั้น น้ำแฮงสุดด่ำ ไปกั๋นบ่ได้
ครั้นพอยามแล้ง น้ำแห้งพอไหว พอจะล่องไป เหมือนใจ๋เฮาอั้น
348. ลาก่อน”ผาม่าน” หน้อยใหญ่ที่หั้น เฮาต้องไปกั๋น เดินหน้าต่อไป
ผ่อเห็นผาหนึ่ง บ่ปอไค่ไกล๋ มีโพรงหินใหญ่ บนหน้าผาหั้น
หมู่เขาฮ้องว่า “ผาพระแก้ว”กั๋น ตะก่อนมานั้น “นางจ๋ามเทวี”
349. เสด็จตางเรือ ถึงผาแห่งนี้ นางได้เกิดมี ศรัทธาขึ้นมา
นางเอา”พระแก้ว” “น้ำค้างไ”ว้สา อัญเชิญขึ้นมา ไว้บนผานี่
บ่ะเดี่ยวบ่เห็น “ พระแก้ว”สักขี แต่ก่อนเกยมี ไผเอาไปกา
350. มาถึง”ผาแต้ม” สีสดงามต๋า ลดหลั่นลงมา รูปแต้มมากมาย
รอยแยกแตกร้าว เป๋นเส้นเป๋นสาย ลดหลั่นเรียงราย งามหลายตั๊ดนี่
“นางจ๋าม”เคยผ่าน มาถึงผานี้ หื้อช่างแต้มสี รูป”ช้างตั๋วใหญ่”

351. ตั้งขวางอยู่หั้น ผ่อเห็นแต่ไกล๋ ฮ้องชื่อกั๋นไป นี่คือ”ผาแต้ม”
ล่องแพผ่านไป ปะบ่าหินแหลม เป๋นช่อขึ้นแซม อย่าง”ยอดเจดีย์”
เป๋นบ่ะหินแข็ง เรียงไปสุดที่ “หาดผาเหล็ก”นี่ คือชื่อของมัน
352. บ่ะหินแข็งแต๊ จาวแพเข็ดกั๋น บ่ทันระวัง ตกน้ำบ่หู้
มีขุนเขาใหญ่ ซับซ้อนงามหรู กอนจ้องผ่อดู เหมือนกับ”งวงช้าง”
ยาวไปตางใต้ งามบ่จืดจ๋าง ทิวดอยงดงาม ฮ้องกั๋น”ผางวง”
353. เข้าเขต”วังหม้อ” บ่ต้องได้ห่วง “ช้าง”มันชูงวง ต้อนรับเฮาดี
ถัดไป”วังสิงห์” วังน้ำแห่งนี้ น้ำลึกสุดที่ ที่เคยมีมา
น้ำวังมันกว้าง ค่อยไหลไปช้า ลมเย็นพัดมา สุดแสนสบาย
354. ชีวิตบนแพ นั้นมีความหมาย สุดแสนม่วนใจ๋ ตั๊ด”วังสิงห์”นี่
ปล๋ามีชุกชุม ชาวแพเร็วรี่ จ่อมเบ็ดม่วนดี ได้ปล๋ามากมาย
กอนถึงหน้าน้ำ น้ำแฮงนักหลาย เลี้ยวโค้งไปไกล๋ ระวังหื้อดี
355. มีโขดหินใหญ่ ตั้งโด่กับที่ กล๋างลำวังนี้ บ่ดีดูดาย
ตั๊ดที่แห่งนี้ เทือกเขาสูงใหญ่ เป๋นโพรงตางใน กอนน้ำมาแฮง
เสียงดังกระหึ่ม ฟังสุดแสยง ลมน้ำทั่งแฮง ดือดพล่านน่ากลั๋ว
356. เหมือนเสียงสิงห์โต คำรามสุดตั๋ว ใจ๋สั่นระรัว ไปกั๋นบ่ได้
ต้องรอเสียงคราง หยุดดังพอไหว เฮาต้องขะใจ๋ เร่งไปพ้นพลัน
ระวังหื้อดี หินใหญ่พื้นหั้น แพจะเก่ยมัน “หินนอนวัน”นี่
357. กอนเก่ยมันแล้ว ออกยากสุดที่ จับยามบ่ะดี ต้องนอนตั๊ดหั้น
เกือบสุด”วังสิงห์” ก้อนหินใหญ่นั้น ผ่อฮ่างของมัน เหมือน”สิงห์โต”นอน
นอนหมอบอยู่หั้น บ่ได้หนาวร้อน เป๋นที่พักผ่อน ตั๊ด”วังสิงห์”นี่
358. ออก”วังสิงห์”ไป น้ำไหลเร็วรี่ ทั่งแฮงเต๋มที ใส่แก่งใหญ่หั้น
ระวังกั๋นไว้ “แก่งสร้อย”ชื่อมัน เสียงดังสนั่น ยินมาแต่ไกล๋
เสียงดังของน้ำ ซัดแก่งคลอนไหว แก่งอันตราย “แก่งสร้อยแก่งนี้”
359. มีสามระยะ คดเคี้ยวเต๋มที่ บ่ะค้ำหื้อดี แพล่มลงได้
เฮาค่อยไปกั๋น ระวังระไว เป๋นระยะไป จ๋นพ้นแก่งนี่
เห็น”เมืองอุตุม” “เมืองสร้อย”จ้าดถี่ เก่าก่อนนานมี หมู่คนอยู่หั้น
360. ยอดเจดีย์เก่า กล๋างป่าเขานั้น คร่ำคร่าหักพัง เหลือทรากที่มี
เกยมีลายแทง บอกว่าตั๊ดนี่ ของเก่ามากมี สมบัติโบราณ
มีทรัพย์สิ่งของ มากมหาศาล ซุกซ่อนเนิ่นนาน เสาะหาหื้อดี

361. คำปริศนา ของลายแทงนี้ บอกหื้อในที ของดีอยู่หั้น
“ม้าอยู่ตางเหนือ” “เสืออยู่ใต้นั้น” “กอนอยากได้กั๋น” “เลือดไหลออกไป”
“ค่อยคิดค่อยอ่าน” “ของดีอยู่ไหน” “ตี๋ออกได้ไป” ลายแทงว่าอั้น
362. ผ่อตางซ้ายมือ “เมืองอุตุม”นั้น สันเขาที่กั้น เหมือนอย่าง”หัวม้า”
ทอดขวางขนาน ออกไปเบื้องหน้า เหมือน”แผงคอม้า” ไปสุดที่หั้น
ตางท้าย”แก่งสร้อย” เฮาก็ได้หัน หินก้อนใหญ่มัน แมนยื่นออกมา
363. เหมือนอย่าง”หัวเสือ” เห็นหูเห็นต๋า ยื่นหัวออกม ผ่อไปตางใต้
ตั๊ดที่”ปากห้วย” บ่ใกล้ บ่ไกล๋ สันดอนเด่นไป สบกับน้ำปิง
มี”ต้นเลือดใหญ่” ยืนต้นอยู่นิ่ง กล๋างสันน้ำปิง สมบัติอยู่หั้น
364. “ลายแทง”แตกแล้ว ขะใจ๋ขุดกั๋น จะพบอยู่หั้น ความว่างเปล่ามี
“โหง”เอาไปแล้ว บ่เหลือหยังนี่ ฟังกั๋นม่วนดี สมบัติโบราณ
เลย”แก่งสร้อย”ไป ดอยคู่ขนาน บ่เมินเนิ่นนาน เข้าเขต”ผาวี”
365. ผ่อกอยมันแปลก สังเกตุถ้วนถี่ หน้าผาตั๊ดนี่ หักพังลงมา
มันเป๋นสีแดง เงื้อมชะโงกผา ผ่อไปเหมือนว่า “ตาลปัตรพัดวี”
ฝั่งตรงกันข้าม หินผาตั๊ดนี่ รูปร่างมันมี เหมือนกับ”จ้อง”อั้น
366. มีไว้หลบแดด หลบฝนพื้นนั้น ธรรมชาติสร้างสรร ผ่อแปลกต๋าดี
ฮ้องว่า”ผาจ้อง” เคียงคู่อยู่นี่ กับดอย”ผาวี” อยู่คู่กั๋นมา
มี”ผาก้อนเส้า” เล่ากั๋นไว้ว่า ก้อนเส้านี้นา “ ปู่อ้ายแป๋ง”ไว้
367. ถึง”แก่งอุมหลุ” แพหลุ บ่ไหว ต้องหยุดกั๋นไป ซ่อมแพที่หั้น
“เมืองสร้อยศรีสุข” เมืองโบราณนั้น วัดเก่ามีกั๋น ทรากวัดมากมาย
ตั๊ดตะก่อนนั้น “พุทธรูป”มากหลาย หมู่คนเอาไป จ๋นหมดจ๋นเสี้ยง
368. “พระเจ้าองค์งาม” เปิ้นมีชื่อเสียง “แสงทอง”งามเยี่ยม จาก”แม่ตืน”ไป
“ตู๊หลวง”อัญเชิญ ขึ้นเรือไปไกล๋ ประดิษฐานไว้ ในเมือง”ตาก”หั้น
“มณีบรรพต” ชื่อของวัดนั้น เป๋น”พระประธาน” เชิญไปกราบไหว้
369. ลำน้ำ”สบตื่น” อยู่ใกล้ บ่ไกล๋ “แม่แจ่ม”เจียงใหม่ ไหลสบปิงหั้น
“อำเภออมก๋อย” ที่มาของมัน แม่น้ำลัดกั๋น ผด”เมืองตาก”อี้
อัน”แก่งสะท้อน” ตั๊ดปากน้ำนี่ โขดหินแก่งมี ใหญ่โตมากมาย
370. น้ำทั่งอย่างแรง กระทบหินใหญ่ น้ำพุ่งเข้าใส่ เสียงอย่างฟ้าฮ้อง
สะท้อนไปมา เสียงดังกึกก้อง ป่วนแพจ๋นต้อง คอยหลบหลีกไป
ออกจาก”สบตื่น” ล่องไปตางใต้ ปะบ่ะหินใหญ่ ขวางอยู่หน้าหั้น

371. มีหลายสิบก้อน บ่ หลีกหื้อกั๋น เปิ้นจึงฮ้องมัน “บ่ะหินง่าวอี้”
ต๋อนยามหน้าแล้ง “หินง่าว”หมู่นี้ ผ่อเห็นจ้าดดี เข้าใกล้มันได้
กอนยามหน้าน้ำ ผ่อบ่เห็นไหน ระวังระไว แพจะชนมัน
372. ชนมัน บ่ฮ้อง หากเข้าชนกั๋น เลยตั้งชื่อมัน ว่า”หินง่าว”อี้
บ่ะหินแห๋มหมู่ “หินไอ่ตอย”นี้ ชื่อชั้นมันดี จาวหมู่ฮ้องกั๋น
ก๋องอยู่กล๋างน้ำ ตั้งโด่อยู่หั้น ธรรรมชาติสร้างสรร แนวขวางอย่างดี
373. โจรดักปล้นเอา ตางผ่านตั๊ดนี่ แพเรือโดนดี ตอยเอากั๋นหั้น
เป๋นหมู่ดาวโจร คอยดักปล้นกั๋น กอนเข้าใกล้มัน ดักตอยเอาได้
เข้าเขต”วังเฮย” เอื้อนเอ่ยกับไผ รำพึงกั๋นไป ห้วงน้ำ”วังเฮย”
374. หน้าผามันยื่น ออกมาบังเฉย ร่มรื่นเสบย ลมเย็นพัดมา
น้ำลึกสุดหยั่ง ตั๊ดพื้นหน้าผา เห็นหมู่ฝูงปล๋า แอบมาอยู่หั้น
ตั๋วหน้อย ตั๋วใหญ่ ว่ายไล่ขบกั๋น ชุลมุนพัลวัล ปล๋ามีมากมาย
375. ไปถึงแห๋มแก่ง น้ำกว้างยาวไกล๋ หื้อแพลอยไป กับ”แก่งใหม่”นี้
สายน้ำไหลตรง บ่หลงแก่งนี้ ชื่อฮ้องเปิ้นมี ชื่อว่า”แก่งใหม่”
ลอยไปเรื่อยเรื่อย น้ำกว้างเงาใส สุขใจ๋สบาย บ่เคืองระคาง
376. แก่งนี้สำคัญ งามบ่จืดจ๋าง เงาดอยในน้ำ บนฟ้าสีเทา
งามดอยหินซ้อน เมฆก้อนขุนเขา สูงเด่นเห็นเงา ในแอ่งน้ำนี่
ผ่อเห็น”แร้งหิน” ยืนเกาะกับที่ “ซ้ายตั๋ว “ขวามี” “ แร้งหิน”เกาะหั้น
377. มันโดนคำสาป ของ”นางจ๋าม”นั้น โทษทัณท์ของมัน ลักผ่อเทวี
ตั๋วนางลงอาบ สระเกล้าเกศี โดนสาปทันที ด้วยจ้องผ่อนาง
แก่งในฮ่อมดอย ขนาบสองข้าง ผายืนตระหง่าน หินล้ำออกมา
378. บ่ะหินเทาดำ ก๋องอยู่ตางหน้า ปุ่มป๋มมันหนา ตึงแข็งตึงคม
จาวแพเขากลั๋ว บ่ะหินเป๋นป๋ม โดนใส่ระบม คมมันบาดเอา
ฮ้อง”หินตี๋นช้าง” โดนทั่งจะเฉา คมหินบาดเอา ถึงต๋ายวายได้
379. จาก”หินตี๋นช้าง” ล่องลงตางใต้ มีชะโงกใหญ่ ยื่นออกมาหั้น
แพจะต้องลอด ระหว่างหินนั้น ตางกล๋างของมัน หินย้อยลงมา
มีน้ำพุ่งออก ฟองฝอยเข้าท่า ต๋านานเปิ้นว่า “นางจ๋ามเทวี”
380. อธิษฐานไว้ ต่อเทพตั๊ดนี่ กอนว่าเทวี ได้ครองหละปูน
เจริญรุ่งเรือง บ่ได้หายสูญ ทุกสิ่งจำรูญ ก้าวไปตางหน้า
ขอหื้อมีน้ำ ตั๊ดกล๋างหินผา น้ำพุ่งออกมา อย่งที่เห็นนี่

381. น้ำใสสะอาด ได้เป๋นสักขี พยานเทวี ไปเมืองหละปูน
เป๋นดังน้ำมนต์ หื้อครองไอศูรย์ ทุกอย่างเพิ่มพูน กำลังใจ๋ดี
หมู่เฮาลงอาบ ในน้ำตกนี้ ชะโลมใจ๋ที่ อ่อนล้ามีแฮง
382. เดินหน้าต่อไป เพื่อเสาะแสวง จะได้เปลี่ยนแปลง มุ่งสู่ทางดี
ถึงแก่งประหลาด ชื่อสมศักดิ์ศรี วกวนเวียนมี ปิ๊กไปปิ๊กมา
ชื่อ”แก่งฟ้าปลิ้น” ปลิ้นหลอกไผหวา ลดเลี้ยวเคี้ยวมา จากหน้าไปหลัง
383. หาดทรายมันกว้าง ผาสีน้ำครั่ง แดงป๋นกับดำ ผ่อเห็นชัดเจน
เข้าสู่ท้ายแก่ง เอาน้ำเป๋นเก๋ณท์ ไหลไปมองเห็น “ฮ่อมใย”ตางหน้า
มันเป๋นหว่างดอย หินปู๋นงามต๋า ธารน้ำไหลมา เหมือนใยเส้นด้าย
384. เหมือนใยแมงมุม ขึงดักแมงไว้ กอนผ่อหนไกล๋ มันจะเป๋นอี้
หยังมาเปิงล้ำ ตั้งชื่อได้ที่ จินตนาก๋ารดี ยกนิ้วหื้อเลย
ถึง “หาดผาเหล็ก” บ่ดีนั่งเฉย บ่ดีละเลย ระวังหื้อดี
385. เป๋นหินมน มน สีคล้ำดำหมี หินเหล็กจะมี หาดนี้ที่เดียว
ตางบนหน้าผา เป๋นป่าเขาเขียว หินย้อยดำเชียว อย่างขี้เหล็กอั้น
ถึง”หาดขี้วัว” วัวขี้เหี้ยหั้น ก๋องในน้ำกั๋น เกะกะธารา
386. เป๋นโขดหินใหญ่ ดูเหมือนดังว่า วัวยักษ์ขึ้นมา ยืนขี้ขวางไว้
ผ่านไปได้แล้ว บ่ เร็วดังใจ๋ น้ำนิ่งค่อยไป ถึง”แก่งงุนเกี๋ยง”
น้ำเซาะบ่ะหิน สองข้างแก่งเบี่ยง ผ่อเหมือนต้นเกี๋ยง คดไปเคี้ยวมา
387. บ่ เมินเนิ่นนาน เสียงดังนักหนา “แก่งปัง”แมนมา อยู่ตางหน้าหั้น
น้ำพุ่งอย่างแฮง ต้องระวังกั๋น ปะทะแฮงมัน จะพังเอาได้
เป๋นแก่งแคบ แคบ ควรระวังไว้ บ่ ดีไว้ใจ๋ แพแตกตั๊ดนี่
388. ถึง”วังหัวกว๋าง” น้ำลึกได้ที่ หัววังนั้นมี ปล๋าหลายในหั้น
ต๋อนในวังน้ำ มีหินใหญ่กั้น ปล๋าอาศัยมัน หลบซ่อนอย่างดี
หินผาก้อนใหญ่ ซ้อนกั๋นอยู่นี่ น้ำลดเลี้ยวมี ไประหว่างหิน
389. เสียงดังแต๊ว่า เอิ้น บ่ ได้ยิน น้ำซัดแก่งหิน ดังซู่ดังซ่า
มาถึง”แก่งจุม” หินจุมตางหน้า บ่ะหิน บ่ะผา สุมกั๋นอยู่นี่
มันมาชุมนุม สุมกั๋นหยังนี่ ขวางลำนที บ่หื้อกั๋ยไป
390. เฮาต้องค่อยย้อน เข้าริมน้ำไว้ ค่อยเป๋นค่อยไป ตั๊ด”แก่งจุม”นี่
แก่งมันเอียงลาด เทดิ่งสุดที่ ต้องหลบหื้อดี ถึงจะปลอดภัย
ไปถึงท้ายแก่ง หมู่เฮาม่วนใจ๋ บอกหื้อหู้ไว้ ปล๋าใหญ่มากมี
391. ช่วยกั๋นวางเบ็ด ได้ปล๋าเต๋มที่ ของกิ๋นมากมี เหนื่อยยากหายพลัน
พักจ๋นพอใจ๋ มุ่งหน้าไปกั๋น “แก่งสองแคว”มัน กว้างใหญ่ดูดี
แยกไปตางซ้าย ตางขวาสุดที่ หว่างกล๋างมันมี โขดหินขวางกั้น
392. แพต้องลัดเลาะ ไปต๋ามช่องนั้น ระแวดระวัง อันตรายมี
“สองแควหน้าวัด” แก่งต่อจากนี้ น้ำรวมกั๋นดี เปลื๋องแฮงแต๊ว่า
ตึงลาดตึงชัน แก่งเจ้าปั๋ญหา โขดหินบ่ะผา ขวางตั๊ดแก่งนี่
393. เป๋นแก่งผ่านยาก เห็นอย่างถ้วนถี่ ซากเรือ แพมี มันล่มกั๋นหั้น
ช่วยกั๋นระวัง ถ่อแพหื้อมั่น เฮาต้องช่วยกั๋น ด้วยสามัคคี
รวมพลังกั๋น งัด ถ่อเต๋มที่ ที่สุดก็ดี ออกไปเร็วไว
394. จาก”แก่งสองแคว” กระแสน้ำไหล เลยหน้าวัดไป “วังเงือก”อยู่หั้น
ตะก่อนมีเงือก หวีผมบนนั้น หวีที่ใช้กั๋น เป๋นหวีทองคำ
ต๋อนคืนเดือนหงาย บนแก่งเหนือน้ำ เฮาอาจได้หัน เงือกสาวอยู่นี่
395. หมู่เงือกสาวหน้อย ขึ้นมานั่งหวี สางผมที่มี ด้วยหวีทองคำ
กลลวงอย่างหนึ่ง เล่าหื้อจื่อจ๋ำ หวีมีค่าล้ำ บ่ะดีลักไป
นางเงือกมันขาง นางมีไว้ใช้ กอนเอาหวีไป ขะใจ๋คืนมา
396. กอนบ่เอาคืน เข้าฝันไปหา ทวงของล้ำค่า คืนมาโดยดี
หื้อระวังไว้ จักกล๋ายเป๋นผี ระวังหื้อดี ต๋ายบ่หู้ตั๋ว
เงือกจะไปหา เอาผมพาดหัว ดูดเลือดเสี้ยงตั๋ว ไค่หัวตวยไป
397. ส่งเสียงกรีดฮ้อง ด้วยความสะใจ๋ บ่ ดีเอาไป หวีคำของมัน
มีวังแห๋มวัง อยู่ถัดไปนั้น วังนี้สุดกั่น คือ”วังจงอาง”
มีงูชุกชุม งูพิษหลายอย่าง “ เห่าหม้อ” “ จงอาง “ “เห่าปลวกคอดำ”
398. “งูหางกระดิ่ง” “เห่าดง” “เห่าถ้ำ” จาวบ้านต๋ายกั๋น พิษงูมากมาย
บ่ะเดี่ยวบ่ะมี งูมากล้ำกร๋าย ถูกล่าทำลาย หนีหายเสี้ยงไป
เหลือไว้แต่ชื่อ “วังงู”นั้นไว้ ทุกอย่างเปลี่ยนไป ในปัจจุบัน
399. ถึง”แก่งผาหมอน” หมอนใหญ่ขวางกั้น หินผาใหญ่มัน เกะกะเรียงราย
พอจะหลบหลีก หินใหญ่มากหลาย เฮาต้องหลบไป ตางข้างหาดหั้น
ผ่อเห็นขุนเขา เรียงซ้อนติดกั๋น เรื่องเก่าเล่านั้น “นางจ๋ามเทวี”
400. ขึ้นเรือมาถึง ณที่ตรงนี้ คิดถึงสวามี เหลียวหลังไปดู
กึ้ดฮอดไปว่า เคยอยู่เคียงคู่ กับพ่อยอดชู้ “ละโว้”ตวยกั๋น
เขาจึงเรียกว่า “ดอยนางเหลียว”นั้น แม้นจักห่างกั๋น ยังกึ้ดเติงหา

401. อานุภาพความฮัก ตึง บ่ ช่างว่า กอนเกิดขึ้นมา มันเป๋นจะอี้
ล่อง”แก่งผาหมอน” ม่อกครึ่งทางนี้ โขดหินมากมี อยู่ตรงกล๋างลำ
บ่ะหินก้อนใหญ่ สีดำขวางล้ำ เฮาเลยต้องค้ำ แพห่างออกไป
402. มีคำเปิ้นว่า หื้อระวังไว้ บ่ะหินก้อนใหญ่ “แก่งผาหมอน”นี่
ฮ้องว่า”ผาดำ” น้ำทั่งสุดที่ ม้วนตั๋วเร็วรี่ เรือแพล่มได้
พ้น”ผาดำ”แล้ว จ๋นสุด บ่ ไกล๋ ระวัง ระไว กับ “ หินนกยาง”
403. แมนออกจากฝั่ง บ่ทันได้ถาม ชนหินนกยาง จ๋มน้ำลงไป
สังเกตุหื้อดี ต้องเอาใจ่ใส่ คัดถ่อเข้าไว้ บ่หื้อชนมัน
มาถึง”ปากเวียก” บ่เรียกก๋านนั้น บ่มีหยังกั๋น แพไหลล่องไป
404. เข้าสู่”ผาเรือน” เป๋นหินผาใหญ่ เหมือน”อานม้า”ใน เรื่อง”ผาวิ่งชู้”
“ผาหมอน”ไงเล่า “ฮองอานม้า”อยู่ “หมอนหน้อย”เปิ้นหู้ เป๋นผ้าสีดำ
มันอยู่ตั๊ดนี่ เป๋นเรื่องเล่ากั๋น เป๋นดังนิทาน เข้ากั๋นจ้าดดี
405. ปะ”หินฝายเหล้า” เอาเหล้าเซ่นผี เปิ้นว่าตั๊ดนี่ เซ่นผีฝายมัน
เหล้าใส่บอกไม้ วางบนแพนั้น อาหารคาวหวาน ใส่ในกระทง
ธูปเทียนดอกไม้ ด้วยจิตประสงค์ ขอท่านได้ส่ง ผ่านไปโดยดี
407. เป๋นก๋ารเซ่นไหว้ คาระวะผี ขอหื้อโชคดี เดินทางปลอดภัย
“หินฝายเหล้า”นั้น เป่นดังที่หมาย ผ่านแก่งมากมาย จ๋นถึงตั๊ดนี่
ชื่อ”หิยฝายเหล้า” เขาฮ้องกั๋นอี้ สาเหตุมันมี ดังที่เล่ามา
408. ถึง”แก่งผาขวาง” ขวางแต๊ขวางว่า แล้วไผจะมา กอนขวางกั๋นอี้
เดินทางไปยาก หินใหญ่ทั้งสี่ ขวางกล๋างลำนี่ ยากจะผ่านได้
แฮงปะทะน้ำ หินผาก้อนใหญ่ น้ำแตกกระจาย ฟองฝอยพัดมา
409. น้ำไหล รวดเร็ว พุ่งไปตางหน้า โขดหินแก่งผา เกะกะมากมาย
ต้องระวังกั่น แข็งข้อเกร็งไว้ หลบหินก้อนใหญ่ มุ่งไปตางหน้า
สองข้างแก่งนั้น ป่าใหญ่แน่นหนา ผ่อเห็นสัตว์ป่า หากิ๋นริมหั้น
410. ปะ”แก่งอกม้า” อยู่ตางหน้าหั้น หัวแก่งของมัน น้ำไหลช้าลง
คอยดูต่อไป จะบ่ได้หลง เพื่อความมั่นคง ไปรอดปลอดภัย
กล๋างแก่งน้ำลึก หยั่งลง บ่ ได้ จอดแพเข้าไว้ ตั๊ดริมฝั่งหั้น

411. บอกคนนำร่อง ลองไปผ่อกั๋น จะอย่างใดนั้น ค่อยหาทางไป
ลักษณะแก่ง ถูกแบ่งเอาไว้ อกม้าเป๋นใจ๋ แยกออกสองข้าง
น้ำไหลไปแฮง ซ้ายขวาน้ำทั่ง ซัดแฮงตางกล๋าง ต่างคนต่างไป
412. ส่วนตางด้านขวา เป๋นตางน้ำใหญ่ กระแสมันไหล ค่อนข้างจะแฮง
ก้อนหินหน้อยใหญ่ เป๋นภัยแอบแฝง มีไปทั่วแหล่ง พื้นน้ำตั๊ดนี่
เฮาต้องระวัง บ่ไปผิดที่ ในน้ำ มันมี หินคมเต๋มหั้น
413. กอนล่องออกไป ตางขวาแก่งนั้น เป๋นอันจบกั๋น แพล่มจ๋มได้
กอนออกตางซ้าย พอจะไว้ใจ๋ แต่ต้องค่อยไป ระวังหื้อดี
แก่งนี้แก่งใหญ่ ยาวไกล๋สุดที่ ตั๋วแก่งมันมี แบ่งเป๋นห้าต๋อน
414. อันต๋อนที่หนึ่ง บอกไว้กำก่อน หาทางค่อยผ่อน ถ่อแพออกไป
ต๋อนที่สองนั้น “อกม้า”ขวางไว้ เป๋นหินกว้างใหญ่ ขนาบสองข้าง
กระแสน้ำพุ่ง อย่างแรงตางกล๋ง ค่อยหาช่องว่าง เป๋นตางออกไป
415. ตั้งลำหื้อแข็ง มันอยู่ที่ใจ๋ ต๋อนสามผ่านไป ปลอดภัยด้วยดี
จะอิดไปน่อย ลูกถ่อแพนี้ ยันแพเต๋มที่ สุดตั๋วว่าอั้น
น้ำจะไหลเชี่ยว ปั่นป่วนช่างมัน จะต้องไปกั่น มุ่งตางเบื้องหน้า
416. แก่งต๋อนที่สี่ บ่มีหินผา น้ำลึกแต๊ว่า หยั่งลง บ่ ได้
กระแสมันแรง เชี่ยวเกิน บ่ ไหว ชิดแพเข้าไป ใกล้ฝั่งขวาที
ค้ำหัวยันท้าย หื้อแพเข้าที่ หลบหินผามี มันขวางหน้าหั้น
417. ถึงต๋อนที่ห้า ปอจะโล่งกั๋น น้ำนิ่งโดยพลัน สงบช้าลง
ปล่อยแพลอยไป พักดังประสงค์ ทุกคนต้องปล๋ง กับก๋ารล่องแพ
บ่ได้ท้อถอย ม่วนงันโดยแท้ เต๋มใจ๋นักแก กับ”แก่งม้า”นี่
418. เป๋นแก่งสุดโหด เปิ้นว่ากั๋นอี้ เสียงเล่าลือมี โหดแต๊ว่าอั้น
หมู่แพมารวม ตั๊ดปล๋ายแก่งนั้น เฮาต้องไปกั๋น ตางหน้ายังมี
เข้า”แก่งผาแอก” “ แอก”ของไผนี้ ยื่นออกล้ำที่ แพเกือบชนเอา
419. บ่ะเอาไปใช้ ล่ะไว้เติ้กเขา ว่าแต่หมู่เฮา ระวังหื้อดี
แก่งนี้ บ่ ยาก ล่องไปเร็วรี่ น้ำม่อกพอดี เข้า”แก่งผาออ”
เป๋นแก่งชั้นสอง เออ ออ ไผหนอ น้ำเคล้าหินคลอ “แก่งผาออนี่”
420. กอนเป๋นหน้าน้ำ น้ำป่วนเต๋มที่ เสียงกระหื่มมี เสียงดังน่ากลั๋ว
พอดีหน้าแล้ง น้ำแห้งไปทั่ว บ่ ต้องได้กลั๋ว กับ”ผาออ”มัน
ถึง”แก่งเสือเต้น” เป๋นหินลดหลั่น หมู่เสือเต้นกั๋น โดดข้ามไปมา

421. เหมือนดั่งเสือเต้น บนหินหน้าผา สัตว์สิ่งนั้นนา เป๋นรูปหินหั้น
ก้อนหินมากหลาย อยู่พื้นน้ำนั้น สีมันดำคล้ำ เกะกะทางมี
กอนน้ำไหลเชี่ยว ซัดแฮงเต๋มที่ เรือแพเจอดี ล่มลงกล่างคัน
422. ลมเย็นระรื่น ชื่นหัวใจ๋กั๋น สองข้างธารน้ำ รื่นรมย์ฤดี
ธรรมชาติงามล้ำ ธารน้ำแห่งนี้ ใสล้ำยามมี ลำแสงส่องมา
ปล๋าใหญ่ ปล๋าหน้อย ว่ายน้ำงามต๋า ว่ายวนไปมา ทำท่าคุ้นเคย
423. สุมทุมพุ่มไม้ ไหวสั่นเหวย เหวย ผ่อน่าชื่นเชย ช่างสรรสร้างมา
อากาศบริสุทธ์ ผุดผ่องแต๊ว่า สงบแต๊นา ใน”แก่งเสือเต้น”
มาถึง”เกาะค้าง” ค้างเพราะจ๋ำเป๋น อากาศหนาวเย็น นอนพักสบาย
424 หาดทรายสีขาว ยาวเป๋นเส้นสาย ละเอียดเม็ดทราย สะอาดเกาะนี่
พักอย่างมีสุข ความทุกข์หายหนี ทุกคนม่วนดี สวรรค์ในป่า
พอยามรุ่งเช้า กิ๋นข้าว กิ๋นปล๋า อิ่มกั๋นแล้วลา ออกจาก”เกาะค้าง”
425. ล่องแพต่อไป บ่ได้จืดจ๋าง บ่ ลืม”เกาะค้าง” สุขสันติ์ยินดี
บ่ เมิน เนิ่นนาน ผ่อเห็นถ้วนถี่ เห็น”องค์เจดีย์ “ กับ”วิหารหั้น”
อยู่บนดอยสูง ศรัทธาช่วยกั๋น ชื่อของวัดนั้น “พระบาทท่าฮ้าว”
426. บนวัดมีฮอย จั๊ด แตกแยกร้าว “พระบาทท่าฮ้าว” เคยทรุดโทรมมา
จาวบ้านช่วยแป๋ง แฮงบุญแต๊ว่า ร่วมกับ”ครูบา “ แต่งแต้มจ๋นดี
“วิหาร””มณฑป” ครอบ”พระบาท”นี้ ติดอยู่ตั๊ดที่ หน้าผาใหญ่หั้น
427. ทุกคนไหว้สา ศรัทธาใจ๋มั่น พุทธบาทนั้น ด้วยใจ๋บูชา
กราบลาพุทธบาท มุ่งต่อตางหน้า ด้วยตั้งใจ๋ว่า ล่องแก่งต่อไป
“แก่งตะละหน้อย” อยู่ห่าง บ่ ไกล๋ โขดหินหน้อยใหญ่ เรียงรายพื้นหั้น
428. ปะทะกับน้ำ ฟองฝอยฟู่กั๋น สีขาวฟองมัน งามอย่างน่าดู
ลำแพดิ่งพุ่ง ลงน้ำลาดอยู่ คนถ่อต้องสู้ แรงน้ำของมัน
ช่วยกั๋นค้ำถ่อ สอด งัด เป๋นกั๋น กว่าจะพ้นหั้น ทุลัก ทุเล
429. บางที่ลงเรียบ บ่ ได้หันเห ชุลมุน ชุนเก ตั๊ดท้ายแก่งหั้น
ผากว้างหินปู๋น ขาว แดงผ่อหัน ตรงข้ามแพนั้น อยู่สูงขึ้นไป
ค่อยประคองพา หลบหลีกหื้อไกล๋ หักหนีว่องไว บ่ เข้าใกล้มัน
430. ”แก่งกว๋าง”แก่งฟาน” มันอยู่ติดกั๋น ยามแล้งแห้งน้ำ ค่อยลุยลงไป
ช่องน้ำดูแคบ เดินข้ามพอไหว เก้ง กวางลงไป กินน้ำแก่งนี่
หินผามีนัก กีดขวางทางนี้ จะผ่านต้องมี คนลงแป๋งทาง

431. ออกแฮงกั๋นน่อย ช่วยกั๋นสะสาง เอาหินที่ขวาง เกะกะออกไป
จะเป๋นฮ่อมหน้อย หรือเป๋นฮ่อมใหญ่ ม่อกแพไปได้ เป๋นกิ๋นแล้วหั้น
บางแห่งต้องลาก เชือกมัดแพมั่น ช่วยกั๋นลากมัน หื้อพ้นผ่านไป
432. ก๋านยก บ่ะหิน ที่ขวางหน้าไว้ ภาษาแก่งใช้ ว่า”กองฮิบ”อั้น
“แก่งตะละหลวง” แก่งใหญ่แก่งนั้น แบ่งเป๋นสองชั้น ของตั๋วแก่งนี่
ชั้นแรกตางน้ำ ไหลแฮงเร็วรี่ เลี้ยวเลาะลงที่ ผาใหญ่หน้าหั้น
433, ช่วยกั๋นถ่อแพ หื้อเข้าร่องกั๋น หลบหินใหญ่มัน แล้วพุ่งออกไป
ผ่านพ้นแก่งแรก แก่งสองพอไหว น้ำนิ่งเงียบไป ผ่อเหมือนจะดี
ไปกั๋นได้น่อย น้ำไหลเร็วรี่ ปะทะลมมี พริ้วสะบัดไป
434. น้ำเป๋นเกลียวคลื่น ปะทะหินไว้ คัดแพผ่านไป เกือบจะใกล้มัน
เป๋นเรื่องตื่นเต้น ต้องระวังกั๋น เปียกปอนกั๋นนั้น เรื่องธรรมดา
บ่ ได้กื้ดหยัง ม่วนดีแต๊ว่า สายน้ำช่วยพา หื้อเฮาผ่อนคลาย
435. เป๋นโลกส่วนตั๋ว บ่มีไผไหน ที่จะเข้าใจ๋ ในความเป๋นมัน
ผ่านแก่งไปได้ เฮา บ่ ลืมกั๋น จะต้องมีวัน อย่างอี้คืนมา
พักหายอิดน่อย ผ่อไปตางหน้า เห็นกั๋นเต๋มต๋า “ผาหมู ผามัน”
436. มี”ผาคันเบ็ด” ของ”ปู่อ้าย”นั้น “หัวหมูป่า” มัน เห็นอย่างชัดเจน
มีฮอยเลือดเนื้อ ติดอยู่หื้อเห็น เลือดหมูกระเซ็น เป๋นฮอยอยู่หั้น
เข้าไปใกล้น่อย ก็ได้เห็นกั๋น หินละเอียดนั้น เป๋นมันวะวับ
437. เหมือนอย่างจิ้นแต๊ น่าต้องน่าจับ เรื่องราวเหมือนกับ ดังเขาเล่ามา
ถึง”ผาคันเบ็ด” ที่อยู่ตางหน้า ตั๊ดผานี่กา ดูท่าแปลกดี
คล้ายองค์พระปรางค์ สูงเด่นล้ำที่ หมู่ไม้ใหญ่มี โดยรอบผาหั้น
438. ปื้น”ผาคันเบ็ด” มีแอ่งน้ำกั้น แต่ก่อนมานั้น “จั๊กเข้”เคยมี
“ปู่อ้าย”มาเอา ปล๋าที่อยู่นี่ “ผาคันเบ็ด”มี เป๋นพยานได้
เลย”ผาคันเบ็ด” มากั๋น บ่ ไกล๋ เข้าสู่เขตใน ของ”เกาะป่าคา”
439. มีของประหลาด “บ่อลม”เขาว่า ตั๋วของลมกา จับต้อง บ่ะได้
มีลมเป๋นบ่อ เขาอู้กั๋นไว้ มันเป๋นอย่างใด ฟังไว้หื้อดี
ตั๊ดหน้าผาสูง มีรูสองที่ รูมันใหญ่ ดี ลมมันออกหั้น
440. ลมแฮงต๋อนบ่าย ควรระวังกั๋น หาดกว้างก่อนนั้น ฮ้องกั๋น”บ่อลม”
ผืนน้ำ มันกว้าง แดดร้อนผสม ไอน้ำขึ้นบน ความว่างเกิดมี
อากาศกดต่ำ ลมเข้าแทนที่ แฮงแต๊เต๋มที ต๋อนบ่ายตั๊ดหั้น

441. ดอยมีล้อมรอบ ไป บ่ ได้กั๋น หมุนอ้อมไปพลัน ออกจาก”ฮูลม”
ลมออกไปแล้ว บ่ ดีลืมจ่ม หน้าชื่นอกตรม ย้อนลม บ่ะดี
ถัดไป”กิ่วหวาก” “หวากแต๊ตั๊ดนี่ ภูดอยอยู่ดี หวากแหว่งกล๋างมัน
442. “ดอยมันหวาก”แต๊ อยู่หน้าเฮานั้น ภูดอยที่กั้น ขาดแหว่งออกไป
ลม น้ำ ทั่งแฮง ขาดแหว่งไปไหน มันล่มจ๋มไป ในสายน้ำนี่
เรื่องธรรมดา ก๋ารเปลี่ยนแปลงนี้ ความเป๋นไปมี ธรรมชาติของมัน
443. สำคัญตั๋วเฮา จะต้องช่วยกั๋น ปกป้องหื้อมัน คงอยู่หื้อดี
ผ่าน”บ้านท่าตุ้ม” ผู้คน บ่ะมี๋ อพยพภัยมี บ่อยู่บ้านหั้น
เปิ้นหื้อเตรียมตั๋ว กอนเขื่อนเสร็จกั๋น น้ำจะท่วมมัน เพื่อความปลอดภัย
444. ถึง”แก่งผาควาย” เหมือน”ควายป่า” ใหญ่ บ่ หื้อเฮาไป ขวางลำอยู่หั้น
สองข้างริมน้ำ คน บ่อยู่กั๋น ทิ้ง ร้างไปพลัน หมู่คนจากไป
บ่เหลือหยังแล้ว ที่เคยปลูกไว้ ตางหน้าเป๋นไป ภัยน้ำจะมา
445. “แก่งบ่ะขามป้อม” เป๋นแก่งตางหน้า บางคนฮ้องว่า “ เป๋นแก่งข้าวตอก”
น้ำ บ่ปอลึก ไหลเป๋นละลอก โขดหิน”ข้าวตอก” เกะกะขวางไป
แก่นมันมนมน เหมือนจะกิ๋นได้ น้ำลายปอไหล บ่ะขามป้อมอั้น
.446. อากาศเริ่มฮ้อน เฮาหยุดพักกั๋น ฮ้อนตั๋วช่างมัน อดเอากั๋นไป
บ่ะได้เห็นแล้ว น้ำจะท่วมใหญ่ เหลือเรื่องเล่าไว้ เป๋นเหมือนตำนาน
สะท้านในอก เกยผ่านไปนั้น สิ้นสูญไปพลัน มันแปรเปลี่ยนไป
447. เอาตางหน้าว่า จะเป๋นไฉน ผ่อกอยกั๋นไป จ๋นถึงที่สุด
พักเหนื่อยหายแล้ว เฮาต้องรีบรุด ก๋ารพักสิ้นสุด ล่องแพต่อไป
ถึง”บ้านสะหมง” บ่ เห็นมีไผ เห็นแต่หาดทราย ว่างเปล่าหั้นนา
449. น้ำไหล บ่ แฮง บ่ ซัดเต๋มที่ ไปกั๋นได้ดี ม่วนแต๊สุขใจ๋
ล่องไปตวยน้ำ มุ่งหน้าหนไกล๋ บ่ทันเท่าใด ถึง”บ้านสะหมง”
เข้าสู่บ้านนา นาแต๊ บ่หลง ไว้แลงค่ำลง พักกั๋นที่หั้น
450. ต๋อนแรกจะแวะ ผ่อไผบ่ะหัน ไผบ่อยู่กั๋น ตึงสองหมู่บ้าน
คง บ่อยู่แล้ว ไปที่ทางก๋าร เปิ้นจัดหมู่บ้าน สั่งก๋ารหื้อไป
มันบ่ ลุกตั๋ว เลยบ่ เข้าใกล้ มุ่งหน้าต่อไป “ดอยหลวงจุ่งจ้า”

451. ตะก่อนเป๋นบ้าน ผู้คนแน่นหนา “เจ้าพ่อจุ่งจ้า” สถิตย์อยู่หั้น
เป๋นดอยหลวงใหญ่ ตระหง่านตั้งมั่น เขานับถือกั๋น ผู้คนกราบไหว้
หมู่นักเดินเรือ ขึ้นเหนือล่องใต้ เขามาเซ่นไหว้ ก่อนออกเดินทาง
452 . ตั๊ดหน้าผาสูง เปรียบเหมือนหน้าต่าง มันเป๋นช่องว่าง บุ๋มเว้าเข้าไป
เหมือนอย่างปากถ้ำ หื้อจ๋ำกั๋นไว้ “ประตู๋เจียงใหม่ “อังวะ”สยาม”
สามชื่อตั๊ดนี่ มันน่าติดต๋าม เหมือนมีคำถาม อยู่ในใจ๋เฮา
453. ปอจะไขออก ความหมายของเขา บอกทางหื้อเฮา ในก๋ารเดินทาง
ตางเหนือ”เจียงใหม่” ตางใต้”สยาม” วันตกบอกนาม “อังวะ”อยู่นี่
จะไปตางใด ไขความต๋ามนี้ เซ่นไหว้หื้อดี ปลอดภัยไปมา
454. มีงานทุกปี๋ ประเพณีจัดหา “กิ๋นฮ่าว”กั๋นนา ร่วมมือกั๋นดี
“แห “ข่าย” มีพร้อม จับปล๋าน้ำนี่ เอาเข้าพิธี “กิ๋นฮ่าว”ตวยกั๋น
ได้ปล๋ามากหลาย ปรุงเป๋นอาหาร “ ยำ” ลาบ” ย่าง” นั้น “ แก๋งปล๋า”ลำดี
455. ถวายเจ้าพ่อ เซ่นไหว้หมู่ผี เหลือจากบัดพลี หมู่คนกิ๋นกั๋น
ทุกคนกิ๋นอิ่ม ต่างแยกย้ายพลัน ของเหลือขว้างมัน ลงน้ำหื้อเสี้ยง
บ่ะเอาปิ๊กบ้าน ถือเป๋นของเลี้ยง เมื่อกิ๋น บ่ะเสี้ยง หื้อทิ้งขว้างไป
456. จบสิ้นกั๋นแล้ว เกาะแก่งน้ำใส เหลือความเป๋นไป เล่ากั๋นสืบมา
อันความเปลี่ยนแปลง ของโลกนั้นหนา “วัฏฏะสังขารา” “ อนิจจัง”มี
เกาะแก่งจ๋มหาย ในน้ำเขื่อนนี้ รวมทั้งของดี ริมฝั่งธารา
457. พร้อมทั้งบ้านเรือน ผู้คนสรรหา ตึงวัด ตึงวา ผาใหญ่ผาหน้อย
โดนน้ำท่วมหมด บ่ ใช่ ของค่อย ป่าใหญ่ป่าหน้อย จ๋มในน้ำหั้น
ที่เอ่ยอ้างนี้ “จ๋ามเทวีท่าน” เคยขึ้นมาหัน เกาะแก่งแนวไพร
458. มีความเกี่ยวพัน รอนแรมมาไกล๋ ขอบันทึกไว้ เป๋นเรื่องเป๋นราว
ความยากลำบาก เปิ้นมีหลายเท่า ถึงเป๋นเรื่องเล่า ก็อิงของจริง
หลักฐานตึงหมด มีพร้อมทุกสิ่ง บ่ ได้หยุดนิ่ง ต้องค้นคว้าเอา
459. เล่ามายาวล้ำ บ่ ดีง่วงเหงา ของดี บ่ะเก่า มีแห๋มมากมาย
อันก๋ารสร้างเขื่อน จ๋ำเป๋นมากหลาย โลกเฮาเปลี่ยนไป เพื่อพัฒนา
ถึงจะเสียดาย ของดีล้ำค่า ธรรมชาติงามต๋า ต้องถูกทำลาย
460. น้ำในยามแล้ง ไฟฟ้ามีใช้ เกษตรก้าวไกล๋ อุดมสมบูรณ์
มันจ๋ำเป๋นแต๊ ทุกอย่างนำหนุน แหล่งน้ำเป๋นทุน บ้านเมืองเฮาได้
กอน บ่ มีเขื่อน เก็บน้ำไว้ใช้ อันความยากไร้ จะมีตวยมา