พระเหลี้ยมเล็กพิมพ์นิยม พระเหลี้ยม ตามภาษาท้องถิ่นเขาเรียกกันเช่นนี้ หมายถึงพระกรุที่มีรูปลักษณ์เป็นรูปสามเหลี่ยม ซึ่งคำว่าเหลี้ยมหมายความว่าแหลม ดังนั้นคำว่าพระเหลี้ยมจึงมีความหมายว่าพระกรุที่มีลักษณะปลายแหลม ซึ่งก็ตรงกับความเป็นจริงขององค์พระ
ส่วนคำว่าเลี่ยงหรือที่เรียกกันไปว่าพระเลี่ยงตามที่ผุ้ที่นิยมพระในส่วนกลางเรียกพระชนิดนี้กันนั้น เขาไปเหมาเอาเป็นเรื่องของพระพุทธคุณขององค์พระ ที่หมายความว่าหากใครมีพระชนิดนี้ในความครอบครอง ภัยร้ายต่างๆจะหลีกเลี่ยงไม่กล้าเข้ามา ซึ่งหากจะคิดกันในแง่นี้ก็คงไม่ผิดกติกา พอจะอนุโลมกันไปได้อย่างไม่น่าจะขัดข้องกัน สำหรับพระเหลี้ยมเล็กพิมพ์นิยมนี้ กรุที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือพระกรุวัดประตูลี้ ซึ่งพระจะขึ้นจากที่นี่มากที่สุดและเป็นพระที่มีความงดงามอลังการ์มากกว่าพระเหลี้ยมที่ขึ้นจากที่ใด เท่าที่ได้พบเห็นและพิจารณาอย่างดีและเต็มที่
ถือได้ว่าพระเหลี้ยมของกรุประตูลี้นี้มีความสมบูรณ์แบบทั้งความงามและองค์ประกอบของพุทธศิลป์ถึงขั้นเทพเลยก็ว่าได้ องค์พระประทับอยู่ในกรอบสามเหลี่ยมขนาดเล็กที่พอดีและเหมาะเจาะ ประดับไปด้วยลวดลายต่างๆ องค์พระทรงมงกุฎมี กุลฑล ทับทรวง รัดแขนพร้อม ประทับนั่งในท่าปางมารวิชัย บนฐานที่มีทั้งแบบบัวกลมและบัวเหลี่ยม มีซุ้มรัศมีโดยรอบเป็นรูปของกลีบบัวปลายแหลมขึ้นไปจรดด้านบน ซึ่งประกอบไปด้วยฉัตรห้าชั้น อันหมายถึงความเป็นกษัตราธิราชเจ้า สองข้างของพระองค์ประธานของพระเหลี้ยมพิมพ์นี้มีพระกุมารฝาแฝดประทับอยู่สองข้างเคียงคู่กัน
องค์ที่ติดพิมพ์ชัดเจนจะเห็นมีวงรัศมีรอบเศียรทั้งสององค์ ซึ่งก็มีความหมายถึงผู้มีบุญหนักศักดิ์ใหญ่ นอกจากนี้เหนือเศียรขึ้นไปเราสังเกตุดูก็จะเห็นรูปฉัตรสี่ชั้นอยู่ด้านบน ล่างสุดใต้ฐานประทับจะเป็นรูปของช้างพลายสามเชือกประดับอยู่ มีความหมายถึงความเป็นเจ้าฟ้ามหากษัตริย์ผู้ทรงอำนาจชั้นสูงจึงจะมีช้างมาเป็นสัญญลักษณ์ประดับพระบารมีได้
หัวช้างเชือกตรงกลางนั้นหมายถึง .ช้างปู้ก่ำงาเขียว ช้างเผือกงาดำคู่บุญบารมีของพระนางจามเทวีประดับอยู่ สองข้างเป็นช้างประจำพระองค์ของพระกุมารทั้งสองแต่ละองค์ ริมสุดมีลวดลายประดับจากด้านล่างริมฐาน จนถึงปลายแหลมด้านบน หากจะพิจารณาดูแล้วแทบจะหาเนื้อที่ว่างในพระเหลี้ยมเล็กไม่มีเลย พระองค์ประธานที่ประทับนั่ง จะมีหน้าตาหูปากจมูกอย่างเด่นชัด
พระเหลี้ยมเล็กพิมพ์นี้พอจะอนุมานได้ว่า คงจะเป็นการสร้างขึ้นมา เพื่อให้เป็นอนุสรณ์ของงานเฉลิมฉลองการขึ้นครองราชย์เป็นจอมนางกษัตรีย์หริภุญไชย อันหมายความถึงเปรียบเสมือนเป็นองค์แทนของเจ้าแม่จามเทวี ซึ่งไม่เห็นจะมีพระเครื่องหรือพระแบบอื่นใดจะมีรูปลักษณ์เช่นนี้ เหตุผลดังกล่าวขอให้ท่านมองดูอย่างละเอียดถี่ถ้วนคิดและพิจารณาดูเอาเถิดว่าเป็นความจริงดังที่ผู้เขียนว่าไว้หรือไม่ เท่าที่ผู้เขียนได้เก็บสะสมพระกรุต่างๆมามากมายก็ไม่เห็นว่าจะมีพระกรุที่ไหนอื่นใดจะมีลวดลายและรายละเอียดงดงามเทียบเท่าพระเหลี้ยมเล็กพิมพ์นิยมนี้เลย
นอกจากจะพบพระเหลี้ยมที่วัดประตูลี้แล้ว ยังขุดพบได้ในวัดแห่งอื่นเช่นที่วัดดอยติ วัดดอนแก้ว วัดพระคงฤาษี และบริเวณเมืองเก่าของเวียงกุมกามซึ่งเคยเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักรหริภุญไชย แต่พุทธศิลป์และความงดงามสู้พระเหลี้ยมของกรุวัดประตูลี้ไม่ได้เลย